หลอดไฟ LED Tube คือหลอดไฟ LED ที่รูปร่างคล้ายกับหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์เดิม มีขนาดความยาว และประเภทของขั้วหลอดไฟเหมือนเดิม ซึ่งคือขั้วแบบ G13 และมีความยาว 2 ขนาดคือ T8 ยาว 1.2 เมตร และยาว 0.6 เมตร ดังนั้นโดยทางกายภาพแล้วหลอดไฟ LED Tube T8 นั้นสามารถนำไปเปลี่ยนแทนหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์แบบเดิมได้เลย
แต่วงจรการต่อหลอดไฟ LED Tube T8 นั้นจะไม่เหมือน วงจรการต่อหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์แบบเดิม ดังนันเพื่อให้สามารถใช้งานหลอดไฟ LED Tube T8 ในโคมไฟเดิมได้นั้น จะต้องมีการโมดิฟาย หรือมีขั้นตอนการต่อวงจรใหม่เล็กน้อยเพื่อให้หลอดไฟ LED Tube T8 ใหม่นั้นสามารถใช้งานกับโคมไฟเดิมได้
ก่อนอื่นทางเราขออธิบายวงจรการต่อหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์แบบดังเดิมก่อนเพื่อปูพื้นฐานไปสู่การต่อวงจรหลอดไฟ LED Tube T8 ในลำดับถัดไป
1. ต่อสายไฟ L เข้ากับบัลลาสต์แกนเหล็ก
2. ต่อสายไฟออกจากบัลลาสต์แกนเหล็ก เข้ากับขาหลอดด้านบนซ้าย
3. ต่อสายออกจากขาหลอดด้านล่างซ้าย เข้ากับ Starter
4. ต่อสายออกจาก Starter เข้ากับขาหลอดด้านล่างขวา
5. ต่อสายไฟ N เข้ากับหลอดด้านบนขวา
หลอดไฟ LED Tube T8 ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยใน จะมีรูปแบบวงจรภายในหลอด 2 ประเภทหลัก คือ
– เป็นวงจรภายในหลอดไฟที่มีไฟเข้า L และ N อยู่ฝั่งเดียวกันของขั้วหลอด
– เป็นวงจรหลักของหลอดไฟ LED Tube ยี่ห้อสากล เช่น Philips Toshiba และ Osram
– เป็นวงจรภายในหลอดไฟที่มีไฟเข้า L และ N อยู่คนละฝั่งของขั้วหลอด
*หมายเหตุ ในปัจจุบัน หลอดไฟยี่ห้อสากล บางรุ่นมีหลอดไฟ LED Tube ที่เป็นวงจรแบบ Double End ด้วยเช่นกัน
สามารถต่อวงจรในโคมไฟได้ 2 แบบ คือ
ถึงแม้ว่าจะเป็นหลอด LED Tube ที่มีวงจรภายในแบบเข้าข้างเดียวแต่ผู้ผลิตแนะนำให้มีการต่อวงจรที่โคมเป็นลักษณะเป็นไฟ L และ N เข้าคนละข้างอยู่ดี และทำการต่อสายเชื่อมขั้วหลอดด้านล่างเข้าด้วยกันดังสายสีเขียวตามรูป
ข้อดี – สามารถใส่หลอดไฟสลับฝั่งได้
ข้อเสีย – ใช้สายไฟเยอะกว่า
ต่อไฟ L และ N เข้าไปที่ขั้วหลอดด้านใดด้านหนึ่งเลย วิธีนี้ช่างหลายๆคนจะทำการต่อวงจรตามแบบที่ 2 นี้สำหรับหลอด LED Tube ที่เป็นแบบวงจรเข้าข้างเดียว (Single End) เนื่องจากมีการเขียนตัวอักษร L-N ไว้ที่หลอดด้านหนึ่ง แต่จริงๆแล้วทางผู้ผลิตนั้นไม่แน่นำให้ทำการต่อวงจรแบบนี้
ข้อดี – ใช้สายไฟน้อย
ข้อเสีย – หากใส่หลอดผิดด้าน อาจะทำให้หลอดไฟเสีย หรือเกิดไฟซ้อตได้
ดังนั้นผู้ผลิตหลอดไฟแบบ Single End ทุกเจ้าจึงแนะนำการต่อวงจรโคมไฟสำหรับหลอดไฟ LED Tube (Single End) แบบวิธีที่ 1.1 และไม่แนะนำให้ต่อวงจรแบบที่ 2
ต่อไฟตรงเข้าที่ขั้วหลอดทั้ง 2 ฝั่งแยกกัน โดยต่อสายไฟ L เข้าที่ฝั่งหนึ่งและทำการต่อสายไฟ N เข้าที่ฝั่งตรงข้าม แต่การใช้หลอดไฟแบบวงจรภายในหลอดเข้าสองข้าง (Double End) นั้นต้องระวังในเรื่องของความปลอดภัยระหว่างติดตั้ง จำเป็นต้องมีการปิดไฟหรือตัดไฟก่อนทำการเปลี่ยนหลอดไฟทุกครั้ง
1. ถอดหลอดไฟเดิมออกแล้วเปลี่ยนหลอดไฟ LED Tube T8 ใหม่แทนที่
2. ถอด Starter เดิมออก แล้วใส่ LED Starter / Dummy Starter / Protection Fuse แทน (ชื่อเรียกต่างกันตามแต่ละผู้ผลิต
1. ถอดหลอดไฟเดิมออกแล้วเปลี่ยนหลอดไฟ LED Tube T8 ใหม่แทนที่
2. ถอด Starter เดิมออก แล้วเปิดไฟได้เลย
1. ดูวงจรภายในหลอด ที่ข้างหลอดหรือข้างกล่องของหลอดไฟให้ดีกว่าเป็นหลอดประเภท 1. วงจรเข้าข้างเดียว (Single End) หรือ วงจรเข้าสองข้าง (Double End)
2. แนะนำให้ซื้อหลอดแบบวงจรภายในหลอดแบบเข้าข้างเดียว (Single End) เนื่องจากผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล IEC 62776 ซึ่งเป็นแม่แบบของมาตรฐานมอก. 2779-2652 ซึ่งเกี่ยวกับหลอดแอลอีดีขั้วคู่ที่ออกแบบเพื่อเปลี่ยนทดแทน หลอดฟลูออเรสเซนซ์ชนิดตรง – คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัย
3. ถ้าเป็นการใช้งานตามบ้าน หรือเปิดไฟต่อวันไม่นานนัก แนะนำการต่อวงจรแบบ 4 หรือ แบบ 5 ขึ้นอยู่กับประเภทวงจรของหลอดไฟที่ซื้อ
4. หากเป็นการใช้งานในออฟฟิตสำหรับงาน โรงงาน โกดังสินค้า ที่เปิดไฟมากกว่า 8 ชม.ต่อวัน แนะนำให้ทำการถอดบัลลาสต์แกนเหล็กออก และต่อวงจรแบบที่ 1 หรือ 3 ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดไฟได้มากกว่าการต่อวงจรแบบ 4 หรือ 5 ประมาณ 1-2W ต่อหลอด หรือคิดเป็นการประหยัดค่าไฟประมาณ 35 บาท ต่อหลอด ต่อปี
แชร์
สังเกตไหมว่าโคมไฟถนนสาธารณะแสงสีส้มที่เราเคยพบเห็นในสมัยก่อน ปัจจุบันได้ถูกแทนที่ด้วย…
ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า จริง ๆ แล้ว ไม่ได้มีไว้สำหรับให้ช่างไฟรู้ …
ชินเพาเวอร์ ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายและขายโคมไฟไฮเบย์(โคมไฟสำหรับโรงงาน) , โคมไฟถนน , โ…