0
สินค้าที่บันทึกใว้

วิธีเลือกโคมไฟสนาม LED สำหรับสนามฟุตบอลฉบับมือโปร

โคมไฟฟลัดไลท์ โคมไฟสนาม ความรู้

คุณคงสงสัยว่าการทำให้บริเวณสนามฟุตบอลมีค่าความสว่างตรงตามมาตรฐานและความต้องการอย่างแท้จริง ทำได้ด้วยการเลือกใช้โคมไฟสปอร์ตไลท์ LED กำลังวัตต์สูง หรือติดตั้งโคมไฟฟลัดไลท์จำนวนมาก ใช่ไหม? หรือที่จริงแล้วมีเกณฑ์อะไรให้ต้องพิจารณาบ้าง รวมถึงต้องระมัดระวังอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?

บทความนี้จะให้คำแนะนำทุกอย่างเกี่ยวกับการเลือกโคมไฟ LED สำหรับสนามฟุตบอล โดยอ้างอิงตามมาตรฐานของ FIFA และ UEFA ถ้าคุณพร้อมแล้วเรามาเริ่มทำความเข้าใจไปด้วยกัน

 

ความสว่างในสนามฟุตบอลคืออะไรกันแน่ มีความแตกต่างกันอย่างไร?

บอกก่อนเลยว่าการเลือกโคมไฟสนาม LED ต้องพิจารณาระดับความสว่าง (Lux) ในสนามฟุตบอล ซึ่งมีเกณฑ์การแบ่งที่ชัดเจน เริ่มจากพิจารณาวัตถุประสงค์ในการถ่ายทอดทางโทรทัศน์เป็นหลัก แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเจาะลึกลงไปด้วยว่า สนามนั้นใช้สำหรับการแข่งขันในระดับหรือลีกใด

ด้านล่างนี้ จะเป็นตัวอย่างตารางแสดงรายละเอียดของระดับความสว่างที่แนะนำสำหรับสนามฟุตบอลตามมาตรฐาน FIFA แบบเข้าใจง่าย

 

– สำหรับสนามฟุตบอลที่ใช้เล่น เพื่อสันทนาการทั่วไป ค่าความสว่างเฉลี่ยที่แนะนำอยู่ที่ 200 Lux หากใช้เพื่อการแข่งขันระดับสโมสรควรมีความสว่างไม่น้อยกว่า 500 lux และ 750 lux สำหรับการแข่งขันฟุตบอลระดับประเทศ โดยเน้นให้ความสำคัญเฉพาะความสว่างในระนาบแนวนอน ( Horizontal) หรือพื้นสนามเท่านั้น

– สำหรับสนามฟุตบอลระดับนานาชาติ ที่ใช้จัดการแข่งขันและมีการถ่ายทอดสด (แบบสนาม 11 คน ขนาดสนาม 68 X 100 เมตร) มีค่าความสว่าง (lux) อยู่ที่ราว 2,500-3,500 Lux

นอกจากนี้ สนามฟุตบอลระดับนานาชาติจะมีโคมไฟสปอร์ตไลท์ LED ที่ส่องแสงเข้ามาในสนาม นอกจากจะให้ค่าความสว่างที่พื้นสนามแล้ว ยังต้องให้ความสว่างในระนาบแนวตั้ง (Vertical) ได้ด้วย ซึ่งระนาบนี้จะเป็นระนาบที่ตั้งฉากกับพื้นสนาม ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากต่อการถ่ายทอดสด โดยแสงสว่างที่ตกกระทบที่ใบหน้าของนักแตะ จะต้องเพียงพอให้กล้องถ่ายทอดสดสามารถจับภาพได้คมชัดทุกรายละเอียดและไม่เกิดเงามืด เพื่อให้ผู้ชมทางบ้านไม่พลาดช่วงเวลาสำคัญของการแข่งขัน

ซึ่งโคมไฟสปอร์ตไลท์มุมแคบส่วนใหญ่อาจให้แสงสว่างที่พื้นสนามในระนาบแนวนอนได้ดี แต่จะไม่สามารถให้ความสว่างในแนวตั้งได้ หากไม่ใช้โคมไฟสนาม LED รุ่นที่มีมุมกระจายแสงที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับส่องสว่างสนามกีฬาโดยเฉพาะ

เลือกโคมไฟฟลัดไลท์สนามฟุตบอลต้องพิจารณาอะไรบ้าง ?

หลังจากที่คุณมีความเข้าใจในเรื่องของค่าความสว่าง (lux) ที่เหมาะสมกับแต่ละจุดประสงค์แล้ว ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยในการเลือกโคมไฟสนาม LED ที่จำเป็นด้วยเช่นกัน

1. มุมกระจายแสงของโคมไฟฟลัดไลท์/โคมไฟสปอร์ตไลท์ LED

โคมไฟสนามหรือโคมไฟสาดแสงจะแบ่งเป็น 2 แบบ จำแนกตามรูปแบบของลำแสง คือ

– โคมไฟฟลัทไลด์ (LED Floodlight) ให้มุมกระจายแสงแบบกว้าง 120 องศา ส่วนมากใช้ในพื้นที่ที่มีการติดตั้งในระดับความสูงไม่มากนัก
– โคมไฟสปอร์ตไลท์ (LED Spotlight) ให้มุมกระจายแสงแบบแคบ ใช้ส่องเน้นวัตถุหรือติดตั้งบนเสาสูง High Mast

โดยส่วนมากโคมไฟสำหรับสนามฟุตบอลมักจะใช้มุมองศาแคบ ที่ลำแสงจะพุ่งแบบมีทิศทาง เหมาะสำหรับส่องในระยะไกลโดยเฉพาะ เนื่องจากโคมไฟสนาม LED ต้องติดตั้งบนเสาสูง หรือใช้โคมไฟที่มีมุมกระจายแสงเป็นแบบอสมมาตรร่วมด้วย เพื่อช่วยส่องสว่างในจุดที่เป็นมุมอับแสง

ทว่าในปัจจุบันโคมไฟสาดแสงหนึ่งรุ่น สามารถเลือกชนิดของมุมกระจายแสงได้หลากหลายรูปแบบเพียงแค่เปลี่ยนเลนส์เท่านั้น กล่าวคือโคมไฟหนึ่งรุ่นเป็นได้ทั้งโคมไฟฟลัทไลท์และสปอร์ตไลท์นั่นเอง

2. ความสม่ำเสมอของแสงบนพื้นสนามฟุตบอล

องค์ประกอบหลักที่ไม่ควรมองข้าม คือ ความสม่ำเสมอของแสง (Uniformity: U) และไม่เพียงแต่ดูค่าในระนาบแนวนอน (Horizontal) ที่พื้นสนามเท่านั้น ยังต้องคำนึงถึงค่าในระนาบแนวตั้ง (Vertical) ด้วย เพื่อยกระดับคุณภาพของภาพขณะถ่ายทอดให้ชัดเจนและลงตัวยิ่งขึ้น

โดยยูฟ่าได้กำหนดค่าความสม่ำเสมอของแสงนี้ ให้มีค่าอยู่ที่ 0.5 -0.7 ซึ่งหากค่า Uniformity นี้ยิ่งมาก และเข้าใกล้ค่า 1.0 มากเท่าไร แสดงถึงว่าแสงที่ได้บนสนามฟุตบอลถือว่ามีความสม่ำเสมอของแสงมาก ไม่มีจุดอับแสงหรือเงามืดบนสนามเลย นอกจากนี้ โคมไฟสปอร์ตไลท์ LED ที่ใช้ควรมีค่าความถูกต้องของสี Ra > 70 เพื่อสร้างสีสันให้มีความสมจริงมากยิ่งขึ้น

3. ค่าแสงแยงตา Glare

การออกแบบตำแหน่งติดตั้งโคมไฟสปอร์ตไลท์ LED และการเลือกมุมกระจายแสงของโคมไฟสนามนั้นจะต้องลดแสงแยงตา หรือ Glare ให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้ลำแสงจากโคมไฟสปอร์ตไลท์เข้าไปแยงสายตา จนลดทอนประสิทธิภาพการมองเห็นจนสร้างปัญหาให้กับผู้เล่น ตากล้อง รวมถึงผู้ชมด้วย ขณะเดียวกัน ต้องคำนึงปริมาณและทิศทางแสง ไม่ให้สร้างมลพิษทางแสงกับพื้นที่นอกสนามหรือพื้นที่โดยรอบด้วย ซึ่งเราสามารถช่วยคุณออกแแบบแสงสว่างสนามกีฬาด้วยโปรแกรม 3D Dialux เพื่อให้ทราบค่า Glare และช่วยหลีกเลี่ยงแสงแยงตาที่จะเกิดขึ้นก่อนติดตั้งจริงได้

4. น้ำหนักและดีไซน์ของโคมไฟสปอร์ตไลท์

การพิจารณาน้ำหนักของโคมไฟสปอร์ตไลท์ (LED Spotlight) เป็นอีกเรื่องที่ควรให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะมีหลายสนามต้องการเปลี่ยนโคมสปอร์ตไลท์ LED เพื่อทดแทนโคมไฟ HID เดิม เลยมีความกังวลว่า เสาไฟเดิมจะสามารถรองรับน้ำหนักโคมไฟใหม่ได้หรือไม่

ชินเพาเวอร์จึงทำการออกแบบและกำหนดให้โคมไฟสาดแสงทุกรุ่นมีน้ำหนักเบา ทั้งยังมีรุ่นพิเศษ สำหรับโคมไฟสปอร์ตไลท์วัตต์สูง ที่สามารถแยกตัวโคมไฟ และอุปกรณ์ขับกระแส LED Driver ออกจากกันได้ โดยสามารถวางกล่องอุปกรณ์แยกไว้อยู่ด้านล่าง ช่วยให้การติดตั้งเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยมากขึ้น

5. คุณภาพที่น่าชื่อถือ

เพื่อยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาโคมไฟสนาม ควรเลือกส่วนประกอบจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือเท่านั้น โดยต้องพิจารณาทุกองค์ประกอบของโคมไฟที่มีกระบวนการผลิตผ่านตามมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น Housing, LED Chip หรือ LED Driver รวมถึงให้ความสำคัญในเรื่องของการรับประกันสินค้าด้วย แน่นอนว่า ชินเพาเวอร์มีโคมไฟคุณภาพสูง ที่พร้อมให้บริการสำ

1. กินไฟต่ำ แต่ให้พลังส่องสว่างสูง ด้วย LED Chip คุณภาพ ที่มอบประสิทธิภาพความสว่างสูงสุด 140-160 lm/w
2. โคมไฟมีองศาการส่องแสงหลากหลาย ตั้งแต่ 15-120 องศา ตอบโจทย์ครบทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะติดตั้งในสนามฟุตบอลหรือแม้แต่พื้นที่นอกอาคารอื่น ๆ เช่น ลานจอดรถ ป้ายโฆษณา ฯลฯ
3. LED Driver จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มี Surge Protection ระบบป้องกันไฟกระชาก ไม่น้อยกว่า 20KV และระบบป้องกันอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน รวมถึงมีฟังก์ชั่นที่รองรับการใช้งานด้วยระบบการควบคุมสัญญาณแบบไร้สาย
4. โคมไฟมีอัตราการลดลงของแสงต่ำ ดำรงค่าลูเมนได้ไม่น้อยกว่า 70% ที่การเปิดใช้งานเป็นเวลานาน 50,000 ชั่วโมง และมีการรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี

ก้าวไปไกลอีกขั้น ด้วยนักออกแบบไฟสนามฟุตบอล และไฟสนามกีฬามืออาชีพจากชินเพาเวอร์

นอกเหนือจากคุณลักษณะข้างต้นที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือความถูกต้องแม่นยำ เพราะสนามฟุตบอลของคุณจำเป็นต้องได้รับการออกแบบอย่างละเอียดโดยโปรแกรมคำนวณแสง Dailux จากทีมผู้เชี่ยวชาญ ติดต่อเราและแชร์ข้อมูลที่คุณมี เพื่อให้ได้รับการประเมินแบบสมจริง

– ขนาดสนาม
– ตำแหน่งและจำนวนของเสาไฟ
– ความสูงเสาไฟ
– ระดับของการแข่งขัน (สำหรับกำหนดค่าความสว่าง lux)

เพียงบอกข้อมูลกับเราเพียงเท่านี้ ทีมนักออกแบบของชินเพาเวอร์ก็สามารถจำลองสนามออกมาให้เห็นได้ทุกรายละเอียดในรูปแบบ 3D รวมทั้งประมาณการจำนวนโคมไฟและเลือกรุ่นโคมไฟสปอร์ตไลท์ LED ที่เหมาะสมที่สุดให้คุณได้อย่างง่ายดาย ติดต่อเราได้เลย

หากต้องการมาตราฐานแสงสว่างสำหรับสนามฟุตบอลฉบับเต็มจาก FIFA, UEFA และ AFC สามารถติดต่อเราเพื่อขอรายละเอียดมาตรฐานฉบับเต็มได้ฟรี

บทความอื่นๆที่คุณอาจสนใจ

โคมไฟถนน ความรู้

‘โคมไฟถนนสาธารณะ’ ต้องเลือกอย่างไรถึงได้ของดีมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย?

สังเกตไหมว่าโคมไฟถนนสาธารณะแสงสีส้มที่เราเคยพบเห็นในสมัยก่อน ปัจจุบันได้ถูกแทนที่ด้วยโคมไฟถนนสาธารณะ LED แสงสีขาวที่มอบความสว่างชัดเจนยามค่ำคืนแล้วเป็นส่วนใหญ่ ตัวอย่างโครงการ อาทิเช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เริ่มโครงการเปลี่ยนโคมไฟทางหลวงทั่วประเทศจำนวนกว่า 3 ล้านหลอดมาใช้เป็นแบบ LED หรือการที่บรรดาโครงการบ้านจัดสรรใหม่ ๆ ก็ได้เปลี่ยนมาใช้โคมไฟถนนสาธารณะ LED นั่นคือเหตุผลที่เราจะพาผู้อ่านไปเข้าใจว่าโคมไฟทางหลวงแอลอีดีมีประโยชน์อย่างไร คุ้มค่ากับการเป็นเจ้าของหรือไม่ รวมถึงควรพิจารณาสิ่งใดบ้างหากต้องเลือกมาใช้งาน – โคมไฟถนนสาธารณะ LED มีประโยชน์ต่อคนใช้รถและคนเดินถนนอย่างไร? – 3 สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกโคมไฟถนนสาธารณะ LED – โคมไฟถนนสาธารณะเป็นมากกว่าแสงสว่างยามค่ำคืน   โคมไฟถนนสาธารณะ LED มีประโยชน์ต่อคนใช้รถและคนเดินถนนอย่างไร? รู้หรือไม่ว่า? โคมไฟถนนสาธารณะที่ใช้หลอดโซเดียมความดันสูง (High Pressure Sodium) หรือหลอดโซเดียมความดันต่ำ (Low Pressure Sodium) ซึ่งให้แสงสว่างสีส้มนั้น ปัจจุบันมีประสิทธิภาพที่ด้อยกว่าโคมไฟถนน LED อย่างชัดเจน เช่น 1. ค่าความถูกต้องของสี CRI ต่ำมาก ส่งผลต่อการมองเห็นของผู้ใช้รถใช้ถนน 2. หลอดทั้งสองชนิดนี้ต้องใช้งานร่วมกับบัลลาสต์ ที่กินไฟเพิ่มขึ้นมา 20-50 วัตต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดต้นทุนแฝงในค่าไฟฟ้า 3. หลอดทั้งสองชนิดนี้มีอัตราการลดลงของแสงสูง เพราะเมื่อใช้งานไประยะหนึ่งแล้ว ความสว่างของโคมไฟถนนจะลดลงอย่างรวดเร็ว ให้ความสว่างมากเฉพาะช่วงแรก ๆ ที่เปลี่ยนหลอดใหม่เท่านั้น จะเห็นได้ว่าถนนบางแห่งมืดมาก แม้โคมไฟจะเปิดใช้งานอยู่ก็ตาม 4. อายุการใช้งานต่ำ เฉลี่ย 20,000 ชั่วโมง ทำให้ต้องบำรุงรักษาและเปลี่ยนหลอดบ่อย อย่างไรก็ตาม ข้อด้อยของโคมไฟทางหลวงที่ใช้หลอดโซเดียมความดันสูงและหลอดโซเดียมความดันต่ำ จะไม่มีอยู่ในโคมไฟถนนสาธารณะ LED ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน นั่นจึงทำให้เราเห็นว่าทั้งภาครัฐและเอกชนได้เลือกติดตั้งไฟถนนสาธารณะ LED เนื่องจากมีข้อดีและมอบประโยชน์ต่อคนใช้รถใช้ถนนที่มากกว่า ดังนี้ – ประหยัดค่าไฟฟ้าได้กว่า 60-80% โคมไฟถนนสาธารณะ LED…

ความรู้ เทคโนโลยี

3 ข้อแตกต่างระหว่างหลอดไฟ LED กับหลอดไฟทั่วไป

ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า จริง ๆ แล้ว ไม่ได้มีไว้สำหรับให้ช่างไฟรู้ หรือเป็นทักษะเฉพาะด้านเพียงเท่านั้น จริง ๆ คนทั่วไปอย่างเรา ๆ ก็สามารถเรียนรู้หาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเปิดโลกทัศน์และสามารถเลือกนำมาใช้งานให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ที่สำคัญหากคุณมีความรู้ก็จะสามารถเลือกใช้งานให้ได้รับความคุ้มค่าและได้รับประโยชน์สูงสุดด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับหลอดไฟ บางคนคิดว่าหลอดไฟที่เราใช้งานกันอยู่นั้น มันก็เหมือน ๆ กันหมดนั่นแหละ ให้แสงสว่างเหมือน ๆ กัน ซึ่งความจริงแล้วมันแตกต่างกัน ซึ่งเราอยากให้คุณเปลี่ยนมุม มองใหม่ แล้วคุณจะพบกับความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่าง หลอดไฟธรรมดา กับ LED อยากรู้ก็ตามมาดูรายละเอียดกับเรากันได้เลย 1. หลอดไฟ LED สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าหลอดไฟธรรมดาทั่ว ๆ ไปได้เกือบ 6 เท่า เพราะหลอดไฟทั่วไปจะสามารถให้แสงสว่างอยู่ที่ประมาณ 10,000 ชั่วโมง แต่สำหรับ หลอดไฟ LED สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 60.000 ชั่วโมงกันเลยยิ่งคุณเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม จึงสรุปได้เลยว่าอายุการใช้งานของหลอดไฟ 2 ชนิดนี้แตกต่างกันมากเลยทีเดียว 2. หลอดไฟ LED ช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้เกือบเท่าตัว ด้วยคุณสมบัติที่สามารถให้อัตราแสงสว่างที่สูงกว่าหลอดไฟทั่วไป ทำให้ช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าลงได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังให้แสงสว่างที่มีคุณภาพ มีอัตราการกระพริบที่สูง เป็นแสงสีขาวแท้ ช่วยให้คุณสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้แสงได้อย่างมีคุณภาพ สบายตา และไม่ต้องกังวลใจกับยอดค่าไฟในแต่ละเดือน 3. หลอดไฟ LED ปลอดภัยกว่าหลอดไฟธรรมดาทั่วไป เพราะไม่มีทั้งรังสียูวี ที่จะทำร้ายผิวของคุณ หรือจะเป็นการระบายความร้อนที่ทำให้อุณหภูมิภายในห้องสูงขึ้นอย่างหลอดไฟทั่วไป ไม่มีสารพิษในหลอดไฟอย่างพวกสารปรอท เป็นหลอดไฟที่ปลอดภัยต่อคนใช้งานได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์กันเลยทีเดียว หลอดไฟชนิดนี้นอกจากปลอดภัยต่อผู้ใช้งานแล้วยังช่วยลดภาวะโลกร้อนที่ส่งผลร้ายต่อโลกของเราอีกด้วย เป็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่าง หลอดไฟ LED กับ หลอดไฟธรรมดาทั่วไป ทั้งในแง่ของความทันสมัยและคุณสมบัติ แบบนี้คุณยังจะลังเลใจในการเลือกใช้งานเพื่อให้ประโยชน์ที่คุ้มค่าและให้แสงสว่างที่มีประสิทธิภาพกับคุณอีกเหรอ อย่ารอช้าอีกเลยในการเลือกสรรหลอดไฟที่ดีที่สุดให้คุณได้ใช้งานกัน เพื่อให้คุณได้พบกับมิติใหม่ของแสงสว่าง ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพกันอย่างแท้จริง ดีทั้งประสิทธิภาพและดีกับสุขภาพของผู้ใช้งานอีกด้วย เป็นหลอดไฟที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างพึงพอใจสูงสุด อยากให้คุณเปิดใจและรับความนำสมัยของหลอดไฟ…

ความรู้ เทคโนโลยี

กฎหมายค่ามาตรฐานความเข้มแสงสว่าง (Lux Output Level) 2568

ชินเพาเวอร์ ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายและขายโคมไฟไฮเบย์(โคมไฟสำหรับโรงงาน) , โคมไฟถนน , โคมไฟฟลัดไลท์ รวมถึงโคมไฟกันระเบิดและโคมไฟที่คุณอาจสนใจอีกมากมาย ขอแนะนำกฎหมายเกี่ยวกับความเข้มของแสงสว่าง (ค่าลักซ์ Lux) อ้างอิงตามกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดําเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานเกี่ยวกับความร้อน แสงสว่าง และเสียง พ.ศ. 2559 ซึ่งใน หมวด 2 เกี่ยวกับแสงสว่างกฎหมายระบุไว้ว่า ข้อ ๔ นายจ้างต้องจัดให้สถานประกอบกิจการมีความเข้มของแสงสว่างไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน ที่อธิบดีประกาศกําหนด ต้องการผู้เชี่ยวชาญช่วยให้คำแนะนำและออกแบบแสงสว่างให้ผ่านมาตรฐานตามกฎหมาย? ปรึกษาฟรี! กดติดต่อเราได้ทันที ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง (ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561) ค่าลักซ์ (Lux) คือค่าความเข้มของแสงสว่าง (Illuminance) บนหน้างานมีหน่วยเป็นลูเมนต่อตารางเมตร ซึ่งในกฎหมายแสงสว่างนั้นระบุค่าความต้องการแสงสว่างเป็นค่าเฉลี่ยของค่าลักซ์ในพื้นที่ต่างๆเพื่อให้ผู้ใช้งานพื้นที่นั้นๆ เกิดความปลอดภัยในการใช้งานมีการกำหนดค่าความสว่างดังนี้ ตารางที่ 1 มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง ณ บริเวณพื้นที่ทั่วไปและบริเวณการผลิตภายในสถานประกอบกิจการ ลานจอดรถ ทางเดิน บันได :  50 ลักซ์ ป้อมยาม :  50 ลักซ์ ห้องน้ำ ห้องสุขา :  100 ลักซ์ โรงอาหาร ห้องปรุงอาหาร :  100 ลักซ์ ห้องฝึกอบรม ห้องบรรยาย : 300 ลักซ์ ตารางที่ 2 มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง ณ บริเวณที่ลูกจ้างต้องทางาน โดยใช้สายตามองเฉพาะจุดหรือต้องใช้สายตาอยู่กับที่ในการทำงาน (โรงงาน พื้นที่การผลิต คลังสินค้า) คลังสินค้า (Warehouse) : 200 ลักซ์…