0
สินค้าที่บันทึกใว้

โคมไฟกันระเบิด Explosion Proof คืออะไร ก่อนติดตั้งต้องดูอะไรบ้าง?

ATEX โคมไฟกันระเบิด ความรู้
โคมไฟกันระเบิด คือ

เคยสังเกตไหมว่าบางพื้นที่ในเขตอุตสาหกรรม โรงงาน หรือโกดังสินค้า จะมีหลอดไฟที่ดูแข็งแรงป้องกันแน่นหนาเป็นพิเศษ ซึ่งหลอดไฟเหล่านั้นเรียกว่า ‘โคมไฟกันระเบิด’ และมีหน้าที่สำคัญตามชื่อเรียก ว่าแต่มีวิธีการใดบ้างที่จะใช้ประเมินว่าควรติดตั้งโคมไฟกันระเบิดตรงไหนและอย่างไร? เพื่อไม่เสียเวลามาร่วมทำความเข้าใจไปพร้อมกัน

โคมไฟกันระเบิด Explosion proof คืออะไร?

โคมไฟกันระเบิด Explosion Proof คือ โคมไฟแบบพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟ ตัวอย่างเช่น โรงงานปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมัน ห้องเก็บสารเคมี คลังน้ำมัน โกดังเก็บวัตถุไวไฟ และปั๊มก๊าซ รวมถึงบริเวณที่เต็มไปด้วยสาระเหยไวต่อการติดไฟ และพื้นที่ผลิตชิ้นงานขนาดเล็กมาก เช่น ผงแป้ง ผงสี เป็นต้น

มาต่อกันที่ปัจจัยที่ทำให้ โคมไฟกันระเบิด หรือ Explosion Proof Lighting นี้ถึงจำเป็นต่อการติดตั้งเพื่อใช้ในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ

1. ในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ นั้นจะมีสารอันตราย สารไฟไว (Hazardous Materials) ที่พร้อมจะจุดติดระเบิด หรือติดไฟได้ง่าย อยู่ในพื้นที่อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้ว

2. เมื่อมีประกายไฟ หรือความร้อนที่สูงเพียงพอ จะทำให้สารอันตรายเหล่านั้นระเบิด และทำความเสียหายอย่างมหาศาลให้กับหน้างานในทันที

3. อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่ใช้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงนั้นจะต้องเป็นอุปกรณ์กันระเบิดทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระเบิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพัดลม สวิทช์ไฟ มอเตอร์ รวมทั้งโคมไฟก็ต้องเป็นแบบกันระเบิดด้วย

4. โคมไฟกันระเบิดนั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ตัวโคมไฟเอง ไม่เป็นต้นต่อหรือสาเหตุของการระเบิด โคมไฟกันระเบิดใช้วัสดุอลูมิเนียมอัลลอยที่หนาและแข็งแรงเป็นพิเศษทั้งกระจก ตัวโคม และชุดสายไฟ รวมถึงมีระบบป้องกันต่างๆ ใส่มาให้ อาทิ ระบบป้องกันไฟกระชาก และระบบป้องกันการจุดติดภายใน โดยหลายๆ คนเข้าใจผิดว่าโคมไฟกันระเบิดนั้นจะสามารถทนแรงระเบิดจากภายนอกได้ แต่แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้น

อะไรคือเกณฑ์ที่ใช้พิจารณาว่าต้องติดตั้งโคมไฟกันระเบิดในพื้นที่นั้นๆ?

หลังจากทราบถึงความจำเป็นของโคมไฟกันระเบิดไปแบบครบถ้วนแล้ว เรามาดูต่อไปพร้อมกันว่าการติดตั้งโคมไฟกันระเบิดใน พื้นที่อันตราย (Hazardous area) มีเกณฑ์การพิจารณาอย่างไรบ้าง เพื่อให้เราสามารถเลือกโคมไฟกันระเบิด Zone 1 หรือ Zone 2 ไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

มาตรฐาน IEC (สากล) และ NEC (อเมริกา)

1. พื้นที่เสี่ยงสูงมาก Zone 0 คือ พื้นที่ที่มีก๊าซหรือไอที่มีความเข้มข้นมากพอที่จะเกิดระเบิด มากกว่า 1,000 ชม./ปี ซึ่งปกติแล้วจะไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าพื้นที่นี้

2. พื้นที่เสี่ยงสูง Zone 1 / Division 1 คือ พื้นที่ที่ในภาวะปกติอาจมีก๊าซหรือไอที่มีความเข้มข้นมากพอที่จะเกิดระเบิดได้ หรือมีสสารอันตรายระหว่าง 10-1,000 ชม./ปี ซึ่งต้องใช้ได้โคมไฟกันระเบิดระดับ Zone 1 หรือ 21 เท่านั้น

3. พื้นที่เสี่ยงต่ำ Zone 2 / Division 2 คือ พื้นที่ที่ในภาวะปกติเกือบจะไม่มีก๊าซหรือไอที่มีความเข้มข้นมากพอที่จะเกิดระเบิดได้ หรือมีสสารอันตรายไม่เกิน 10 ชม./ปี หรือพื้นที่เสี่ยงที่อยู่ติดกับพื้นที่ Zone 1 

นั่นหมายความว่าโคมไฟกันระเบิดที่ติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงสูงอย่าง Zone 1 ย่อมต้องมีการป้องกันและคุณภาพวัสดุที่สูงกว่าโคมไฟกันระเบิดที่ติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงต่ำกว่าใน Zone 2 โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเลือกติดตั้งโคมไฟกันระเบิดที่มีมาตรฐานรองรับตรงกับพื้นที่เสี่ยงนั้นๆ

สามารถอ่านวิธีการแบ่งพื้นที่อันตราย Zone 1 Vs Zone 2 เพื่อศึกษาละเอียดเพิ่มเติมได้ และหากไม่แน่ใจในการเลือกโคมไฟกันระเบิด ชินเพาเวอร์มีผู้เชี่ยวชาญที่จะสามารถช่วยแนะนำอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับหน้างานต่างๆ ได้ฟรี ติดต่อเลย

โคมไฟกันระเบิด LED ชินเพาเวอร์ ให้มากกว่าแค่แสงสว่าง

คุณคงเข้าใจแล้วว่าโคมไฟกันระเบิดคืออะไร เหมาะกับการติดตั้งใช้งานในพื้นที่เสี่ยงแบบไหนบ้าง ถ้าคุณกำลังมองหาโคมไฟกันระเบิด Explosion Proof Lighting ที่มีมาตรฐานระดับสากล และต้องการปรึกษากับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านแสงสว่าง ชินเพาเวอร์ก็พร้อมให้คำแนะนำอย่างละเอียด เพราะเราคิดเสมอว่าโคมไฟกันระเบิดที่ดีต้องให้มากกว่าแค่แสงสว่าง

บทความอื่นๆที่คุณอาจสนใจ

โคมไฟถนน ความรู้

‘โคมไฟถนนสาธารณะ’ ต้องเลือกอย่างไรถึงได้ของดีมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย?

สังเกตไหมว่าโคมไฟถนนสาธารณะแสงสีส้มที่เราเคยพบเห็นในสมัยก่อน ปัจจุบันได้ถูกแทนที่ด้วยโคมไฟถนนสาธารณะ LED แสงสีขาวที่มอบความสว่างชัดเจนยามค่ำคืนแล้วเป็นส่วนใหญ่ ตัวอย่างโครงการ อาทิเช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เริ่มโครงการเปลี่ยนโคมไฟทางหลวงทั่วประเทศจำนวนกว่า 3 ล้านหลอดมาใช้เป็นแบบ LED หรือการที่บรรดาโครงการบ้านจัดสรรใหม่ ๆ ก็ได้เปลี่ยนมาใช้โคมไฟถนนสาธารณะ LED นั่นคือเหตุผลที่เราจะพาผู้อ่านไปเข้าใจว่าโคมไฟทางหลวงแอลอีดีมีประโยชน์อย่างไร คุ้มค่ากับการเป็นเจ้าของหรือไม่ รวมถึงควรพิจารณาสิ่งใดบ้างหากต้องเลือกมาใช้งาน – โคมไฟถนนสาธารณะ LED มีประโยชน์ต่อคนใช้รถและคนเดินถนนอย่างไร? – 3 สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกโคมไฟถนนสาธารณะ LED – โคมไฟถนนสาธารณะเป็นมากกว่าแสงสว่างยามค่ำคืน   โคมไฟถนนสาธารณะ LED มีประโยชน์ต่อคนใช้รถและคนเดินถนนอย่างไร? รู้หรือไม่ว่า? โคมไฟถนนสาธารณะที่ใช้หลอดโซเดียมความดันสูง (High Pressure Sodium) หรือหลอดโซเดียมความดันต่ำ (Low Pressure Sodium) ซึ่งให้แสงสว่างสีส้มนั้น ปัจจุบันมีประสิทธิภาพที่ด้อยกว่าโคมไฟถนน LED อย่างชัดเจน เช่น 1. ค่าความถูกต้องของสี CRI ต่ำมาก ส่งผลต่อการมองเห็นของผู้ใช้รถใช้ถนน 2. หลอดทั้งสองชนิดนี้ต้องใช้งานร่วมกับบัลลาสต์ ที่กินไฟเพิ่มขึ้นมา 20-50 วัตต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดต้นทุนแฝงในค่าไฟฟ้า 3. หลอดทั้งสองชนิดนี้มีอัตราการลดลงของแสงสูง เพราะเมื่อใช้งานไประยะหนึ่งแล้ว ความสว่างของโคมไฟถนนจะลดลงอย่างรวดเร็ว ให้ความสว่างมากเฉพาะช่วงแรก ๆ ที่เปลี่ยนหลอดใหม่เท่านั้น จะเห็นได้ว่าถนนบางแห่งมืดมาก แม้โคมไฟจะเปิดใช้งานอยู่ก็ตาม 4. อายุการใช้งานต่ำ เฉลี่ย 20,000 ชั่วโมง ทำให้ต้องบำรุงรักษาและเปลี่ยนหลอดบ่อย อย่างไรก็ตาม ข้อด้อยของโคมไฟทางหลวงที่ใช้หลอดโซเดียมความดันสูงและหลอดโซเดียมความดันต่ำ จะไม่มีอยู่ในโคมไฟถนนสาธารณะ LED ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน นั่นจึงทำให้เราเห็นว่าทั้งภาครัฐและเอกชนได้เลือกติดตั้งไฟถนนสาธารณะ LED เนื่องจากมีข้อดีและมอบประโยชน์ต่อคนใช้รถใช้ถนนที่มากกว่า ดังนี้ – ประหยัดค่าไฟฟ้าได้กว่า 60-80% โคมไฟถนนสาธารณะ LED…

ความรู้ เทคโนโลยี

3 ข้อแตกต่างระหว่างหลอดไฟ LED กับหลอดไฟทั่วไป

ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า จริง ๆ แล้ว ไม่ได้มีไว้สำหรับให้ช่างไฟรู้ หรือเป็นทักษะเฉพาะด้านเพียงเท่านั้น จริง ๆ คนทั่วไปอย่างเรา ๆ ก็สามารถเรียนรู้หาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเปิดโลกทัศน์และสามารถเลือกนำมาใช้งานให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ที่สำคัญหากคุณมีความรู้ก็จะสามารถเลือกใช้งานให้ได้รับความคุ้มค่าและได้รับประโยชน์สูงสุดด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับหลอดไฟ บางคนคิดว่าหลอดไฟที่เราใช้งานกันอยู่นั้น มันก็เหมือน ๆ กันหมดนั่นแหละ ให้แสงสว่างเหมือน ๆ กัน ซึ่งความจริงแล้วมันแตกต่างกัน ซึ่งเราอยากให้คุณเปลี่ยนมุม มองใหม่ แล้วคุณจะพบกับความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่าง หลอดไฟธรรมดา กับ LED อยากรู้ก็ตามมาดูรายละเอียดกับเรากันได้เลย 1. หลอดไฟ LED สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าหลอดไฟธรรมดาทั่ว ๆ ไปได้เกือบ 6 เท่า เพราะหลอดไฟทั่วไปจะสามารถให้แสงสว่างอยู่ที่ประมาณ 10,000 ชั่วโมง แต่สำหรับ หลอดไฟ LED สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 60.000 ชั่วโมงกันเลยยิ่งคุณเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม จึงสรุปได้เลยว่าอายุการใช้งานของหลอดไฟ 2 ชนิดนี้แตกต่างกันมากเลยทีเดียว 2. หลอดไฟ LED ช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้เกือบเท่าตัว ด้วยคุณสมบัติที่สามารถให้อัตราแสงสว่างที่สูงกว่าหลอดไฟทั่วไป ทำให้ช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าลงได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังให้แสงสว่างที่มีคุณภาพ มีอัตราการกระพริบที่สูง เป็นแสงสีขาวแท้ ช่วยให้คุณสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้แสงได้อย่างมีคุณภาพ สบายตา และไม่ต้องกังวลใจกับยอดค่าไฟในแต่ละเดือน 3. หลอดไฟ LED ปลอดภัยกว่าหลอดไฟธรรมดาทั่วไป เพราะไม่มีทั้งรังสียูวี ที่จะทำร้ายผิวของคุณ หรือจะเป็นการระบายความร้อนที่ทำให้อุณหภูมิภายในห้องสูงขึ้นอย่างหลอดไฟทั่วไป ไม่มีสารพิษในหลอดไฟอย่างพวกสารปรอท เป็นหลอดไฟที่ปลอดภัยต่อคนใช้งานได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์กันเลยทีเดียว หลอดไฟชนิดนี้นอกจากปลอดภัยต่อผู้ใช้งานแล้วยังช่วยลดภาวะโลกร้อนที่ส่งผลร้ายต่อโลกของเราอีกด้วย เป็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่าง หลอดไฟ LED กับ หลอดไฟธรรมดาทั่วไป ทั้งในแง่ของความทันสมัยและคุณสมบัติ แบบนี้คุณยังจะลังเลใจในการเลือกใช้งานเพื่อให้ประโยชน์ที่คุ้มค่าและให้แสงสว่างที่มีประสิทธิภาพกับคุณอีกเหรอ อย่ารอช้าอีกเลยในการเลือกสรรหลอดไฟที่ดีที่สุดให้คุณได้ใช้งานกัน เพื่อให้คุณได้พบกับมิติใหม่ของแสงสว่าง ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพกันอย่างแท้จริง ดีทั้งประสิทธิภาพและดีกับสุขภาพของผู้ใช้งานอีกด้วย เป็นหลอดไฟที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างพึงพอใจสูงสุด อยากให้คุณเปิดใจและรับความนำสมัยของหลอดไฟ…

ความรู้ เทคโนโลยี

กฎหมายค่ามาตรฐานความเข้มแสงสว่าง (Lux Output Level) 2568

ชินเพาเวอร์ ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายและขายโคมไฟไฮเบย์(โคมไฟสำหรับโรงงาน) , โคมไฟถนน , โคมไฟฟลัดไลท์ รวมถึงโคมไฟกันระเบิดและโคมไฟที่คุณอาจสนใจอีกมากมาย ขอแนะนำกฎหมายเกี่ยวกับความเข้มของแสงสว่าง (ค่าลักซ์ Lux) อ้างอิงตามกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดําเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานเกี่ยวกับความร้อน แสงสว่าง และเสียง พ.ศ. 2559 ซึ่งใน หมวด 2 เกี่ยวกับแสงสว่างกฎหมายระบุไว้ว่า ข้อ ๔ นายจ้างต้องจัดให้สถานประกอบกิจการมีความเข้มของแสงสว่างไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน ที่อธิบดีประกาศกําหนด ต้องการผู้เชี่ยวชาญช่วยให้คำแนะนำและออกแบบแสงสว่างให้ผ่านมาตรฐานตามกฎหมาย? ปรึกษาฟรี! กดติดต่อเราได้ทันที ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง (ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561) ค่าลักซ์ (Lux) คือค่าความเข้มของแสงสว่าง (Illuminance) บนหน้างานมีหน่วยเป็นลูเมนต่อตารางเมตร ซึ่งในกฎหมายแสงสว่างนั้นระบุค่าความต้องการแสงสว่างเป็นค่าเฉลี่ยของค่าลักซ์ในพื้นที่ต่างๆเพื่อให้ผู้ใช้งานพื้นที่นั้นๆ เกิดความปลอดภัยในการใช้งานมีการกำหนดค่าความสว่างดังนี้ ตารางที่ 1 มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง ณ บริเวณพื้นที่ทั่วไปและบริเวณการผลิตภายในสถานประกอบกิจการ ลานจอดรถ ทางเดิน บันได :  50 ลักซ์ ป้อมยาม :  50 ลักซ์ ห้องน้ำ ห้องสุขา :  100 ลักซ์ โรงอาหาร ห้องปรุงอาหาร :  100 ลักซ์ ห้องฝึกอบรม ห้องบรรยาย : 300 ลักซ์ ตารางที่ 2 มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง ณ บริเวณที่ลูกจ้างต้องทางาน โดยใช้สายตามองเฉพาะจุดหรือต้องใช้สายตาอยู่กับที่ในการทำงาน (โรงงาน พื้นที่การผลิต คลังสินค้า) คลังสินค้า (Warehouse) : 200 ลักซ์…