0
สินค้าที่บันทึกใว้

ช่างไฟแนะนำ ‘หลอดแสงจันทร์’ กับ ‘โคมไฟไฮเบย์ LED’ แบบไหนเหมาะใช้เป็นโคมไฟโกดังมากที่สุด

โคมไฟไฮเบย์ ความรู้

ใครที่คลุกคลีอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือโกดังเก็บสินค้ามานานเกิน 20 ปี คุณคงเห็นว่าสิ่งที่ให้แสงสว่างในบริเวณนั้น อย่าง ‘หลอดแสงจันทร์’ เริ่มมีปริมาณน้อยลงมากในปัจจุบัน เพราะถูกแทนที่ด้วย ‘โคมไฮเบย์ LED’ แน่นอนว่าเจ้าโคมไฟโกดังแบบใหม่นี้มีประโยชน์หลายอย่างที่ทำให้คุณสนใจ ถ้าอย่างนั้น เรามาทำความเข้าใจถึงความต่างของหลอดไฟทั้งสองชนิดนี้ ในแบบมืออาชีพกันเลยดีกว่า

หลอดแสงจันทร์ คืออะไร?

หลายคนคุ้นชื่อหลอดแสงจันทร์มาแต่ไหนแต่ไร แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจจริง ๆ ว่าหลอดแสงจันทร์ คืออะไรกันแน่? หากว่ากันตามเทคนิค ‘หลอดแสงจันทร์’ หรือ ‘หลอดไอปรอทความดันสูง’ (High Pressure Mercury Vapor Lamp) เป็นหลอดไฟในกลุ่มที่ให้ความสว่างสูงชนิดแรก ๆ ซึ่งออกแบบเพื่อติดตั้งในที่สูงตั้งแต่ 5 เมตรขึ้นไป เช่น โรงงาน โกดังสินค้า ฯลฯ

โดยหลักการทำงานของหลอดแสงจันทร์ คือ การใช้ไฟฟ้าแรงสูงกระโดดผ่านไอปรอทที่อยู่ในหลอดเพื่อสร้างแสงสว่าง ซึ่งหลอดแสงจันทร์จะให้แสงสีขาวอมเหลือง หรือที่เรียกว่าสีขาวนวลคล้ายกับแสงจันทร์นั่นเอง ส่วนอุณหภูมิสี CCT อยู่ที่ 3,500-4,500K และจำเป็นต้องใช้เวลาอุ่นหลอด 4-10 นาที จนกว่าหลอดแสงจันทร์จะสว่างเต็มที่

นอกจากนี้ ยังมี ‘หลอดเมทัลฮาไลด์’ (Metal Halide) ที่หลายคนเข้าใจผิดเรียกสลับไปมาระหว่างหลอดแสงจันทร์ ซึ่งความจริงแล้วหลอดเมทัลฮาไลด์เป็นหลอดไฟที่พัฒนามาจากหลอดแสงจันทร์ มีจุดเด่นที่ให้ความสว่างมากกว่า ประสิทธิภาพสูงกว่า ค่าความถูกต้องของสีดีขึ้น และอายุการใช้งานยาวนานกว่าเดิม โดยอุณหภูมิสี CCT จะอยู่ที่ 4,000-6,500K ให้แสงสีขาวอมเหลืองจนถึงแสงสีขาว

โคมไฟไฮเบย์ LED คืออะไร?

โคมไฮเบย์ ก็คือโคมไฟ LED ประเภทหนึ่งที่ทำหน้าที่เหมือนกับโคมไฟหลอดแสงจันทร์ แต่เปลี่ยนแหล่งกำเนิดแสงเป็น LED หรือเรียกว่าไดโอดเปล่งแสง ซึ่งมีการนำมาติดตั้งใช้เป็นโคมไฟโกดังสินค้า โคมไฟอุตสาหกรรม และติดตั้งในพื้นที่สูงเพื่อสร้างแสงสว่างครอบคลุมบริเวณนั้น ๆ

หลักการทำงานของ LED (Light Emitting Diode) คือ การที่ไดโอดเปล่งแสงมีการปล่อยกระแสไฟผ่านสารกึ่งตัวนำสองชนิด (สารกึ่งตัวนำ P กับสารกึ่งตัวนำ N) เมื่อกระแสไฟไหลผ่านจุดต่อเชื่อมระหว่างสารกึ่งตัวนำทั้งสอง (P-N Junction) ก็จะเกิดเป็นแสงสว่างออกมา ซึ่งอุณหภูมิสี CCT ของ LED อยู่ที่ 3,000-6,500K จะได้แสงออกโทนสีขาวอมเหลืองไปจนถึงสีขาว

ทำไมโคมไฟไฮเบย์ LED ถึงเหมาะจะใช้เป็นโคมไฟโกดังมากกว่าหลอดแสงจันทร์?

จริงอยู่ที่โคมไฟไฮเบย์ LED เป็นนวัตกรรมที่ใหม่กว่า ก็ย่อมต้องดีกว่าหลอดแสงจันทร์ หรือ หลอดเมทัลฮาไลด์แบบเก่า แต่เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องว่าเพราะอะไร คุณถึงควรเปลี่ยนโคมไฟโกดังแบบเดิมอย่างหลอดแสงจันทร์มาใช้เป็นโคมไฮเบย์ LED เราจะตอบที่นี่แบบเคลียร์ทุกคำถาม

1. โคมไฟไฮเบย์ LED มีประสิทธิภาพการส่องสว่างมากกว่า
โคมไฮเบย์ LED มีประสิทธิภาพการส่องสว่าง 150-200 lm/w สูงกว่าหลอดแสงจันทร์และหลอดเมทัลฮาไลด์ ที่มีประสิทธิภาพการส่องสว่าง 35-100 lm/w
2. โคมไฮเบย์ LED ประหยัดไฟได้มากกว่า
เนื่องจากหลอด LED มีประสิทธิภาพสูงกว่าหลอดไฟแสงจันทร์ทำให้เราสามารถใช้โคมไฟไฮเบย์ที่มีวัตต์ต่ำกว่า กินไฟน้อยกว่า แต่ยังให้ความสว่างเท่ากับหลอดไฟแสงจันทร์แบบเก่าได้
3. โคมไฟไฮเบย์ LED มีค่าความถูกต้องของสีสูงกว่า
โคมไฮเบย์ LED มีค่าความถูกต้องของสี CRI อยู่ที่ 70-80 สูงกว่าหลอดแสงจันทร์ที่ 40 และ หลอดเมทัลฮาไลด์ที่ 60
4. โคมไฟไฮเบย์ LED มีความทนทานใช้ได้นานกว่า
โคมไฮเบย์ LED มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 50,000-60,000 ชม. ต่างจากหลอดแสงจันทร์และหลอดเมทัลฮาไลด์ที่มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 20,000 ชม. เท่านั้น
5. โคมไฟไฮเบย์ LED มีความเป็นมิตรต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมมากกว่า
โคมไฮเบย์ LED มีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า เพราะไม่มีสารใด ๆ ที่ก่ออันตรายต่อร่างกายมนุษย์ ต่างจากหลอดแสงจันทร์ซึ่งมีไอปรอทที่เป็นโลหะหนักบรรจุอยู่ด้านในหลอด

ข้อด้อยของโคมไฟไฮเบย์ LED มีหรือไม่?

ใช่ว่าโคมไฮเบย์ LED จะมีแต่ข้อดีเสมอไป เพราะยังมีสิ่งที่เราควรเข้าใจไว้นั่นก็คือ ราคาของโคมไฮเบย์ LED ที่แพงกว่าหลอดแสงจันทร์พอสมควร ส่วนอีกข้อหนึ่งคือ โคมไฮเบย์ LED นั้นมีความสว่างที่ค่อนข้างมากและออกแบบมาให้ติดตั้งในตำแหน่งที่สูง จึงไม่แนะนำให้นำไปติดตั้งที่ความสูงต่ำกว่า 5 เมตร เนื่องจากจะเกิดปัญหาแสงแยงตาผู้ใช้งาน

นึกถึงโคมไฟไฮเบย์ LED นึกถึง Chinpower

หากคุณต้องการโคมไฟไฮเบย์ LED หรือโคมไฟโกดัง ที่มีประสิทธิภาพความสว่างสูงถึง 190 lm/w ประหยัดไฟ และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 100,000 ชั่วโมง ชินเพาเวอร์ก็พร้อมมอบโคมไฮเบย์คุณภาพสูง ควบคู่กับทีมที่รอให้คำแนะนำแก่คุณในทุกเรื่องที่อยากรู้

บทความอื่นๆที่คุณอาจสนใจ

โคมไฟถนน ความรู้

‘โคมไฟถนนสาธารณะ’ ต้องเลือกอย่างไรถึงได้ของดีมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย?

สังเกตไหมว่าโคมไฟถนนสาธารณะแสงสีส้มที่เราเคยพบเห็นในสมัยก่อน ปัจจุบันได้ถูกแทนที่ด้วยโคมไฟถนนสาธารณะ LED แสงสีขาวที่มอบความสว่างชัดเจนยามค่ำคืนแล้วเป็นส่วนใหญ่ ตัวอย่างโครงการ อาทิเช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เริ่มโครงการเปลี่ยนโคมไฟทางหลวงทั่วประเทศจำนวนกว่า 3 ล้านหลอดมาใช้เป็นแบบ LED หรือการที่บรรดาโครงการบ้านจัดสรรใหม่ ๆ ก็ได้เปลี่ยนมาใช้โคมไฟถนนสาธารณะ LED นั่นคือเหตุผลที่เราจะพาผู้อ่านไปเข้าใจว่าโคมไฟทางหลวงแอลอีดีมีประโยชน์อย่างไร คุ้มค่ากับการเป็นเจ้าของหรือไม่ รวมถึงควรพิจารณาสิ่งใดบ้างหากต้องเลือกมาใช้งาน – โคมไฟถนนสาธารณะ LED มีประโยชน์ต่อคนใช้รถและคนเดินถนนอย่างไร? – 3 สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกโคมไฟถนนสาธารณะ LED – โคมไฟถนนสาธารณะเป็นมากกว่าแสงสว่างยามค่ำคืน   โคมไฟถนนสาธารณะ LED มีประโยชน์ต่อคนใช้รถและคนเดินถนนอย่างไร? รู้หรือไม่ว่า? โคมไฟถนนสาธารณะที่ใช้หลอดโซเดียมความดันสูง (High Pressure Sodium) หรือหลอดโซเดียมความดันต่ำ (Low Pressure Sodium) ซึ่งให้แสงสว่างสีส้มนั้น ปัจจุบันมีประสิทธิภาพที่ด้อยกว่าโคมไฟถนน LED อย่างชัดเจน เช่น 1. ค่าความถูกต้องของสี CRI ต่ำมาก ส่งผลต่อการมองเห็นของผู้ใช้รถใช้ถนน 2. หลอดทั้งสองชนิดนี้ต้องใช้งานร่วมกับบัลลาสต์ ที่กินไฟเพิ่มขึ้นมา 20-50 วัตต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดต้นทุนแฝงในค่าไฟฟ้า 3. หลอดทั้งสองชนิดนี้มีอัตราการลดลงของแสงสูง เพราะเมื่อใช้งานไประยะหนึ่งแล้ว ความสว่างของโคมไฟถนนจะลดลงอย่างรวดเร็ว ให้ความสว่างมากเฉพาะช่วงแรก ๆ ที่เปลี่ยนหลอดใหม่เท่านั้น จะเห็นได้ว่าถนนบางแห่งมืดมาก แม้โคมไฟจะเปิดใช้งานอยู่ก็ตาม 4. อายุการใช้งานต่ำ เฉลี่ย 20,000 ชั่วโมง ทำให้ต้องบำรุงรักษาและเปลี่ยนหลอดบ่อย อย่างไรก็ตาม ข้อด้อยของโคมไฟทางหลวงที่ใช้หลอดโซเดียมความดันสูงและหลอดโซเดียมความดันต่ำ จะไม่มีอยู่ในโคมไฟถนนสาธารณะ LED ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน นั่นจึงทำให้เราเห็นว่าทั้งภาครัฐและเอกชนได้เลือกติดตั้งไฟถนนสาธารณะ LED เนื่องจากมีข้อดีและมอบประโยชน์ต่อคนใช้รถใช้ถนนที่มากกว่า ดังนี้ – ประหยัดค่าไฟฟ้าได้กว่า 60-80% โคมไฟถนนสาธารณะ LED…

ความรู้ เทคโนโลยี

3 ข้อแตกต่างระหว่างหลอดไฟ LED กับหลอดไฟทั่วไป

ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า จริง ๆ แล้ว ไม่ได้มีไว้สำหรับให้ช่างไฟรู้ หรือเป็นทักษะเฉพาะด้านเพียงเท่านั้น จริง ๆ คนทั่วไปอย่างเรา ๆ ก็สามารถเรียนรู้หาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเปิดโลกทัศน์และสามารถเลือกนำมาใช้งานให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ที่สำคัญหากคุณมีความรู้ก็จะสามารถเลือกใช้งานให้ได้รับความคุ้มค่าและได้รับประโยชน์สูงสุดด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับหลอดไฟ บางคนคิดว่าหลอดไฟที่เราใช้งานกันอยู่นั้น มันก็เหมือน ๆ กันหมดนั่นแหละ ให้แสงสว่างเหมือน ๆ กัน ซึ่งความจริงแล้วมันแตกต่างกัน ซึ่งเราอยากให้คุณเปลี่ยนมุม มองใหม่ แล้วคุณจะพบกับความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่าง หลอดไฟธรรมดา กับ LED อยากรู้ก็ตามมาดูรายละเอียดกับเรากันได้เลย 1. หลอดไฟ LED สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าหลอดไฟธรรมดาทั่ว ๆ ไปได้เกือบ 6 เท่า เพราะหลอดไฟทั่วไปจะสามารถให้แสงสว่างอยู่ที่ประมาณ 10,000 ชั่วโมง แต่สำหรับ หลอดไฟ LED สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 60.000 ชั่วโมงกันเลยยิ่งคุณเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม จึงสรุปได้เลยว่าอายุการใช้งานของหลอดไฟ 2 ชนิดนี้แตกต่างกันมากเลยทีเดียว 2. หลอดไฟ LED ช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้เกือบเท่าตัว ด้วยคุณสมบัติที่สามารถให้อัตราแสงสว่างที่สูงกว่าหลอดไฟทั่วไป ทำให้ช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าลงได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังให้แสงสว่างที่มีคุณภาพ มีอัตราการกระพริบที่สูง เป็นแสงสีขาวแท้ ช่วยให้คุณสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้แสงได้อย่างมีคุณภาพ สบายตา และไม่ต้องกังวลใจกับยอดค่าไฟในแต่ละเดือน 3. หลอดไฟ LED ปลอดภัยกว่าหลอดไฟธรรมดาทั่วไป เพราะไม่มีทั้งรังสียูวี ที่จะทำร้ายผิวของคุณ หรือจะเป็นการระบายความร้อนที่ทำให้อุณหภูมิภายในห้องสูงขึ้นอย่างหลอดไฟทั่วไป ไม่มีสารพิษในหลอดไฟอย่างพวกสารปรอท เป็นหลอดไฟที่ปลอดภัยต่อคนใช้งานได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์กันเลยทีเดียว หลอดไฟชนิดนี้นอกจากปลอดภัยต่อผู้ใช้งานแล้วยังช่วยลดภาวะโลกร้อนที่ส่งผลร้ายต่อโลกของเราอีกด้วย เป็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่าง หลอดไฟ LED กับ หลอดไฟธรรมดาทั่วไป ทั้งในแง่ของความทันสมัยและคุณสมบัติ แบบนี้คุณยังจะลังเลใจในการเลือกใช้งานเพื่อให้ประโยชน์ที่คุ้มค่าและให้แสงสว่างที่มีประสิทธิภาพกับคุณอีกเหรอ อย่ารอช้าอีกเลยในการเลือกสรรหลอดไฟที่ดีที่สุดให้คุณได้ใช้งานกัน เพื่อให้คุณได้พบกับมิติใหม่ของแสงสว่าง ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพกันอย่างแท้จริง ดีทั้งประสิทธิภาพและดีกับสุขภาพของผู้ใช้งานอีกด้วย เป็นหลอดไฟที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างพึงพอใจสูงสุด อยากให้คุณเปิดใจและรับความนำสมัยของหลอดไฟ…

ความรู้ เทคโนโลยี

กฎหมายค่ามาตรฐานความเข้มแสงสว่าง (Lux Output Level) 2568

ชินเพาเวอร์ ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายและขายโคมไฟไฮเบย์(โคมไฟสำหรับโรงงาน) , โคมไฟถนน , โคมไฟฟลัดไลท์ รวมถึงโคมไฟกันระเบิดและโคมไฟที่คุณอาจสนใจอีกมากมาย ขอแนะนำกฎหมายเกี่ยวกับความเข้มของแสงสว่าง (ค่าลักซ์ Lux) อ้างอิงตามกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดําเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานเกี่ยวกับความร้อน แสงสว่าง และเสียง พ.ศ. 2559 ซึ่งใน หมวด 2 เกี่ยวกับแสงสว่างกฎหมายระบุไว้ว่า ข้อ ๔ นายจ้างต้องจัดให้สถานประกอบกิจการมีความเข้มของแสงสว่างไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน ที่อธิบดีประกาศกําหนด ต้องการผู้เชี่ยวชาญช่วยให้คำแนะนำและออกแบบแสงสว่างให้ผ่านมาตรฐานตามกฎหมาย? ปรึกษาฟรี! กดติดต่อเราได้ทันที ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง (ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561) ค่าลักซ์ (Lux) คือค่าความเข้มของแสงสว่าง (Illuminance) บนหน้างานมีหน่วยเป็นลูเมนต่อตารางเมตร ซึ่งในกฎหมายแสงสว่างนั้นระบุค่าความต้องการแสงสว่างเป็นค่าเฉลี่ยของค่าลักซ์ในพื้นที่ต่างๆเพื่อให้ผู้ใช้งานพื้นที่นั้นๆ เกิดความปลอดภัยในการใช้งานมีการกำหนดค่าความสว่างดังนี้ ตารางที่ 1 มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง ณ บริเวณพื้นที่ทั่วไปและบริเวณการผลิตภายในสถานประกอบกิจการ ลานจอดรถ ทางเดิน บันได :  50 ลักซ์ ป้อมยาม :  50 ลักซ์ ห้องน้ำ ห้องสุขา :  100 ลักซ์ โรงอาหาร ห้องปรุงอาหาร :  100 ลักซ์ ห้องฝึกอบรม ห้องบรรยาย : 300 ลักซ์ ตารางที่ 2 มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง ณ บริเวณที่ลูกจ้างต้องทางาน โดยใช้สายตามองเฉพาะจุดหรือต้องใช้สายตาอยู่กับที่ในการทำงาน (โรงงาน พื้นที่การผลิต คลังสินค้า) คลังสินค้า (Warehouse) : 200 ลักซ์…