หลอดไฟ LED ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ผู้คนมากมายตั้งแต่ผู้ผลิตสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม จนกระทั้งผู้ใช้ตามบ้านต่างหันมาใช้ LED เพื่อที่จะประหยัดพลังงานลง อย่างไรก็ดีข้อดีของหลอดไฟ โคมไฟ LED นั้นมิได้มีเพียงแค่การกินพลังงานที่น้อยลง แต่มีข้อดีอื่นๆ ดังต่อไปนี้
โคมไฟ และหลอดไฟ แอลอีดี LED ที่ขายอยู่ในปัจจุบันนั้นมีประสิทธิภาพสูงถึง 100-140 lm/w ซึ่งมากกว่าหลอดไส้ที่มีประสิทธิภาพเพียง 10 lm/w หรือมากกว่าถึง 10 เท่านั้นเองด้วยประสิทธิภาพที่สูงกว่าทำให้หลอดไฟ LED สามารถเปล่งแสงออกมาได้มากกว่าด้วยการกินไฟที่เท่ากัน (LED สว่างกว่าหลอดไส้ 10 เท่าที่วัตต์เท่ากัน) จากตารางจะเห็นได้ว่าหลอดไฟโซเดียมความดันสูง/ต่ำ (High/Low Pressure Sodium : HPS) นั้นมีประสิทธิภาพสูงถึง 160-200 lm/w ซึ่งมากกว่า LED อย่างมากแต่ทำไมคนก็ยังเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ โคมไฟ LED ข้อดีต่างๆที่เหลือจะเป็นคำตอบ
ตัวหลอด หรือชิป LED นั้นจะมีการเปล่งแสงออกมาแบบมีทิศทาง ต่างกับหลอดไฟแบบดังเดิมนั้นแสงจะออกมารอบตัวหรือทุกทิศทาง (Indirectional Light) ทำให้เกิดการสูญเสียแสงเป็นอย่างมากในทิศทางที่ไม่ต้องการ ผู้ใช้งานต้องการให้แสงตกกระทบในพื้นที่หน้างานเป็นจุดประสงค์หลักแต่เมื่อแสงกระจายทุกทิศทางแล้ว แผ่นสะท้อนแสงในโคมไฟฟลูออเรสเซนต์ ฝาชีในโคมไฟแสงจันทร์ โคมไฟดาวไลท์ ถูกนำใช้เพื่อสะท้อนแสงที่ไปในทิศทางที่ไม่พึ่งประสงค์และบังคับทิศทางแสงให้กลับมาในทิศทางที่ต้องการซึ่งจะลดการศูนย์เสียแต่ก็ไม่ได้ทั้งหมด
ยกตัวอย่างเช่น หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์นั้นจะมีแสงที่สูญเสียไปด้านบน ส่องขึ้นเพดานไป 50% แสงส่องลงมาในพื้นที่ใช้งานเพียง 50% ดังนั้นหากเราใช้หลอดไฟ LED ที่ส่องลงด้านล่างได้ทั้ง 100% ก็สามารถประหยัดพลังงานไปได้มาก
เนื่องจาก LED เป็นการส่องสว่างแบบ Solid State Lighting (SSL) เป็นอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำประเภทหนึ่ง ซึ่งไม่มีการเผาไส้ให้ร้อน หรือใช้ก๊าซเพื่อเป็นตัวเปล่งแสง ทำให้อายุการใช้งานของ หลอดไฟ LED นั้นยาวนานการหลอดไฟแบบดั้งเดิมอย่างมาก หลอดไฟ LED นั้นมีอายุการใช้งานนานถึง 30,000-50,000 ชม. (ขึ้นอยู่กับคุณภาพของแอลดีอีดี) ซึ่งมากกว่าหลอดไส้ถึง 40 เท่า เนื่องจากหลอดไส้มีอายุเพียง 1,200 ชม.
ข้อดีนี้ช่วงลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาหลอดไฟเป็นอย่างมาก หากเป็นหลอดไฟที่ใช้ในโรงงานหลังคาสูง หลอดไฟดาวไลท์ในเพดานสูง หรือหลอดไฟที่ติดตั้งอยู่ในตำ่แหน่งที่เปลี่ยนยาก ค่าเปลี่ยนหลอดไฟในแต่ละครั้งอาจจะสูงถึงหลายพันบาทต่อหลอด ซึ่งบางโรงงานอาจจะไม่เปลี่ยนหลอด ปล่อยให้หลอดดับไว้นานนับปีก็มี
จากการใช้งานหลอดไฟนั้นเราจะสังเกตุได้ว่าไม่ว่าจะเป็นหลอดไส้ หลอดเมทัลฮาไลด์ (MH) หรือหลอดไฟ Fluorescent T8 /T5 นั้นความสว่างจะลดลง หรี่ลงเป็นอย่างมากจนกระทั้งเกือบจะไม่สว่าง เมื่อใช้งานไประยะหนึ่ง ส่วนในโรงงานนั้นเราจะเห็นได้ชัดว่าหลอดแสงจันทร์หรือหลอด MH นั้นจะมีความสว่างลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง หรือ 40% จากความสว่างเริ่มต้น ทำให้ค่าความสว่างที่ผ่านมาตราฐานกรมโรงงานเมื่อเปลี่ยนหลอดไฟใหม่ๆ จากแสงที่ได้ 200lux ลดลงเหลือไม่ถึง 120 lux เมื่อใช้งานไปไม่ถึง 1 ปี ทำให้ต้องเปลี่ยนหลอดไฟใหม่เร็วกว่าอายุการใช้งานของหลอดที่ระบุไว้ เนื่องจากค่าแสงสว่างลดลงต่ำกว่ามาตราฐาน
โคมไฟLEDไฮเบย์ดีกว่าหลอดแบบเก่าเนื่องจากมีการลดลงของแสงน้อยมากเมื่อเทียบกับหลอดไฟแบบดังเดิม โดยแสงของหลอด LED นั้นจะลดลงไม่ถึง 10% ในการใช้งาน 20,000 ชม.แรก และจะลงลดไม่เกิน 30% ตลอดอายุการใช้งานที่ระบุไว้
หลอดไฟ LED เปิดแล้วสว่างทันที ไม่ต้องรอนานเหมือนหลอด HID หลอดเมทัลฮาไลด์ (MH) ที่ต้องรอ 5-15 นาทีหลังจากที่เปิดถึงจะสว่างเต็มที่ 100%
หลอด LED นั้นไม่มีรังสีอัลตราไวโอเลต UV ที่จะส่งผลเสียต่อสายตาและผิวหนัง ทำให้สาวออฟฟิตไม่ต้องกลัวดำหากใช้หลอดไฟ LED เหมือนที่ต้องทาคลีมกันแดดมาทำงานในออฟฟิตที่ใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ T8 / T5
หลอดไฟแบบดังเดิมนั้นจะแผ่รังสีความร้อนออกมามากทำให้เรารู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ออกมาจากหลอดไฟได้อย่างชัดเจน หากเรายืนหรือทำงานอยู่ใต้หลอดไฟ HID 400W เราจะรู้สึกร้อนอย่างมาก เนื่องจากหลอดไฟประเภทนี้แผ่รังสีความร้อนออกมาถึง 90% จากพลังงานความร้อนที่หมด แต่หลอดไฟ LED เช่น
อย่างไรก็ดีหลอดไฟ LED นั้นมีพลังงานความร้อนที่ต้องถูกนำพา (Conduction) ออกไปจากหลอดถึง 90% ดังนั้นโคมไฟ LED จึงจำเป็นที่จะต้องมีระบบระบายความร้อบแบบนำพาเพื่อนำความร้อนส่วนนี้ไปทิ้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ มิเช่นนั้นหลอดไฟ LED ก็จะมีอายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก
LED แอลอีดี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่มีสารพิษต่างๆ เช่นสารปรอท ซึ่งอยู่ในหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน
ผู้ใช้งานหลอดไฟตามบ้านอาจจะไม่เห็นถึงข้อดีข้อนี้ แต่ผู้ใช้หลอดไฟในโรงงานอุตสาหกรรมแล้วนั้น หลอดไฟที่ติดตั้งใช้งานในพื้นที่ที่มีการสั่นไหวและมีแรงสั่นสะเทือนจาก เครน เครื่องจักรต่างๆ นั้นล้วนทำให้หลอดไฟที่ใช้ขั้วหลอดมีการขยับและดับได้ เช่นหลอดไฟ T8/T5 ที่ใช้ขั้วหลอดแบบ G13/G5 นั้นจะดับบ่อย แต่หลอดไฟ LED นั้นสามารถใช้งานในพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างไม่มีปัญหา
ถึงแม้ราคาจะสูงอยู่ แต่ราคาของหลอดไฟ LED นั้นลดลงมาอยากมากในช่วงที่ผ่านมา จนทำให้การลงทุนเปลี่ยนเป็นหลอดไฟแอลอีดีบางชนิดเช่น LED Tube ที่ใช้เปลี่ยนแทนหลอดฟลูออเรสเซนต์นั้นมีจุดคืนทุนที่ต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นราคาที่ไม่แพงและคุ้มค่าอย่างมากในการลงทุนซื้อหลอด LED
เนื่องจากหลอดไฟ และโคมไฟ LED มีตัวรุ่นและตัวเหลือเยอะมาก รวมทั้งราคาที่แตกต่างกันอย่างมาก ทำให้ผู้ซื้อนั้นจำเป็นที่จะต้องศึกษา และรู้จักหลอดไฟแอลอีดีให้มากพอถึงจะสามารถตัดสินใจซื้อได้อยากคุ้มค่า ไม่ใช่แค่เพียงเทียบราคา กับหลอดไฟที่วัตต์เดียวกันได้ เหมือนการเลือกหลอดไฟแบบดังเดิมซึ่งไม่ได้มีความแตกต่างของคุณภาพหลอดมากนัก
ยกตัวอย่างเช่น หลอดไฟ LED Tube ปัจจุบันมีจำหน่ายตั้งแต่ราคา 150 บาท จนไปถึงหลอดละ 1,000 บาท หลอดไฟ LED Tube 18W เหมือนกันสั่งซื้อในจำนวนเท่ากัน แต่ราคาแตกต่างกันมากกว่า 6 เท่าตัว ยิ่งเป็นการสั่งซื้อจำนวนมากเพื่อใช้ในโรงงาน หรืออาคารสำนักงาน แล้วราคาต่างกัน 10% ก็เป็นจำนวนเงินที่มากแล้ว ดังนั้นผู้ซื้อ หรือฝ่ายจัดซื้อจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับหลอดไฟ LED ก่อนการตัดสินใจสั่งซื้อหลอดไฟที่มีราคาถูกกว่า หรือสามารถติดต่อเรา เพื่อรับบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับหลอดไฟ โคมไฟ LED โคมไฟโรงงาน โคมไฟฟลัดไลท์ โคมไฟถนน LED และยังรวมไปถึงโคมไฟกันระเบิดที่เหมาะสมกับงบประมาณและการใช้งานได้ฟรี ที่ 02-615-0660
แชร์
เลือกซื้อ LED อย่างไรให้คุณรู้สึกว่า "ไม่ยาก" และ "ไม่พลาด"
คุณภาพ VS ราคา VS บริการ
โปรแกรมจำลองแสงสว่างแบบ 3 มิติ
การจำแนกประเภทของโคมไฟกันระเบิด
ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า จริง ๆ แล้ว ไม่ได้มีไว้สำหรับให้ช่างไฟรู้ หรือเป็นทักษะเฉพาะด้านเพียงเท่านั้น จริง ๆ คนทั่วไปอย่างเรา ๆ ก็สามารถเรียนรู้หาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเปิดโลกทัศน์และสามารถเลือกนำมาใช้งานให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ที่สำคัญหากคุณมีความรู้ก็จะสามารถเลือกใช้งานให้ได้รับความคุ้มค่าและได้รับประโยชน์สูงสุดด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับหลอดไฟ บางคนคิดว่าหลอดไฟที่เราใช้งานกันอยู่นั้น มันก็เหมือน ๆ กันหมดนั่นแหละ ให้แสงสว่างเหมือน ๆ กัน ซึ่งความจริงแล้วมันแตกต่างกัน ซึ่งเราอยากให้คุณเปลี่ยนมุม มองใหม่ แล้วคุณจะพบกับความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่าง หลอดไฟธรรมดา กับ LED อยากรู้ก็ตามมาดูรายละเอียดกับเรากันได้เลย 1. หลอดไฟ LED สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าหลอดไฟธรรมดาทั่ว ๆ ไปได้เกือบ 6 เท่า เพราะหลอดไฟทั่วไปจะสามารถให้แสงสว่างอยู่ที่ประมาณ 10,000 ชั่วโมง แต่สำหรับ หลอดไฟ LED สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 60.000 ชั่วโมงกันเลยยิ่งคุณเลือกใช้งานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม จึงสรุปได้เลยว่าอายุการใช้งานของหลอดไฟ 2 ชนิดนี้แตกต่างกันมากเลยทีเดียว 2. หลอดไฟ LED ช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้เกือบเท่าตัว ด้วยคุณสมบัติที่สามารถให้อัตราแสงสว่างที่สูงกว่าหลอดไฟทั่วไป ทำให้ช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าลงได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังให้แสงสว่างที่มีคุณภาพ มีอัตราการกระพริบที่สูง เป็นแสงสีขาวแท้ ช่วยให้คุณสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้แสงได้อย่างมีคุณภาพ สบายตา และไม่ต้องกังวลใจกับยอดค่าไฟในแต่ละเดือน 3. หลอดไฟ LED ปลอดภัยกว่าหลอดไฟธรรมดาทั่วไป เพราะไม่มีทั้งรังสียูวี ที่จะทำร้ายผิวของคุณ หรือจะเป็นการระบายความร้อนที่ทำให้อุณหภูมิภายในห้องสูงขึ้นอย่างหลอดไฟทั่วไป ไม่มีสารพิษในหลอดไฟอย่างพวกสารปรอท เป็นหลอดไฟที่ปลอดภัยต่อคนใช้งานได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์กันเลยทีเดียว หลอดไฟชนิดนี้นอกจากปลอดภัยต่อผู้ใช้งานแล้วยังช่วยลดภาวะโลกร้อนที่ส่งผลร้ายต่อโลกของเราอีกด้วย เป็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่าง หลอดไฟ LED กับ หลอดไฟธรรมดาทั่วไป ทั้งในแง่ของความทันสมัยและคุณสมบัติ แบบนี้คุณยังจะลังเลใจในการเลือกใช้งานเพื่อให้ประโยชน์ที่คุ้มค่าและให้แสงสว่างที่มีประสิทธิภาพกับคุณอีกเหรอ อย่ารอช้าอีกเลยในการเลือกสรรหลอดไฟที่ดีที่สุดให้คุณได้ใช้งานกัน เพื่อให้คุณได้พบกับมิติใหม่ของแสงสว่าง ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพกันอย่างแท้จริง ดีทั้งประสิทธิภาพและดีกับสุขภาพของผู้ใช้งานอีกด้วย เป็นหลอดไฟที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างพึงพอใจสูงสุด อยากให้คุณเปิดใจและรับความนำสมัยของหลอดไฟ…
ชินเพาเวอร์ ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายและขายโคมไฟไฮเบย์(โคมไฟสำหรับโรงงาน) , โคมไฟถนน , โคมไฟฟลัดไลท์ รวมถึงโคมไฟกันระเบิดและโคมไฟที่คุณอาจสนใจอีกมากมาย ขอแนะนำกฎหมายเกี่ยวกับความเข้มของแสงสว่าง (ค่าลักซ์ Lux) อ้างอิงตามกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดําเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานเกี่ยวกับความร้อน แสงสว่าง และเสียง พ.ศ. 2559 ซึ่งใน หมวด 2 เกี่ยวกับแสงสว่างกฎหมายระบุไว้ว่า ข้อ ๔ นายจ้างต้องจัดให้สถานประกอบกิจการมีความเข้มของแสงสว่างไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน ที่อธิบดีประกาศกําหนด ต้องการผู้เชี่ยวชาญช่วยให้คำแนะนำและออกแบบแสงสว่างให้ผ่านมาตรฐานตามกฎหมาย? ปรึกษาฟรี! กดติดต่อเราได้ทันที ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง (ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561) ค่าลักซ์ (Lux) คือค่าความเข้มของแสงสว่าง (Illuminance) บนหน้างานมีหน่วยเป็นลูเมนต่อตารางเมตร ซึ่งในกฎหมายแสงสว่างนั้นระบุค่าความต้องการแสงสว่างเป็นค่าเฉลี่ยของค่าลักซ์ในพื้นที่ต่างๆเพื่อให้ผู้ใช้งานพื้นที่นั้นๆ เกิดความปลอดภัยในการใช้งานมีการกำหนดค่าความสว่างดังนี้ ตารางที่ 1 มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง ณ บริเวณพื้นที่ทั่วไปและบริเวณการผลิตภายในสถานประกอบกิจการ ลานจอดรถ ทางเดิน บันได : 50 ลักซ์ ป้อมยาม : 50 ลักซ์ ห้องน้ำ ห้องสุขา : 100 ลักซ์ โรงอาหาร ห้องปรุงอาหาร : 100 ลักซ์ ห้องฝึกอบรม ห้องบรรยาย : 300 ลักซ์ ตารางที่ 2 มาตรฐานความเข้มของแสงสว่าง ณ บริเวณที่ลูกจ้างต้องทางาน โดยใช้สายตามองเฉพาะจุดหรือต้องใช้สายตาอยู่กับที่ในการทำงาน (โรงงาน พื้นที่การผลิต คลังสินค้า) คลังสินค้า (Warehouse) : 200 ลักซ์…
นโยบายการประหยัดพลังงานของประเทศได้เริ่มต้นเมื่อปี 2516 ซึ่งอยู่ในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 3 (2516-2519) โดยรัฐบาลในขณะนั้นได้กำหนดมาตรการป้องกันการขาดแคลนน้ำมัน และประหยัดการใช้น้ำมันและไฟฟ้าหลายประการ ซึ่งบางมาตรการมีลักษณะชั่วคราว เช่น ลดการใช้ไฟฟ้าแสงสว่างในทางสาธารณะลงร้อยละ 50 จำกัดขนาดเครื่องยนต์ของส่วนราชการ ที่จัดซื้อใหม่ไม่เกิน 1,300 ซีซี เป็นต้น ซึ่งมาตรการเหล่านี้ยกเลิกไปหมดแล้ว เมื่อสถานการณ์ผ่อนคลายลงสำหรับมาตรการ ด้านการอนุรักษ์พลังงาน หรือการประหยัดการ ใช้พลังงานที่ใช้ในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 4 (2520-2525) ก็ยังคงมีอย่างต่อเนื่องเนื่องจากการใช้น้ำมันยังมีอัตราที่สูงมาก อีกทั้งการผลิตไฟฟ้ายังพึ่งพาน้ำมันปิโตรเลียมจากต่างประเทศในอัตราที่สูง มาก มาตรการประหยัดพลังงานในขณะนั้นครอบคลุมทั้งการคมนาคมขนส่ง อุตสาหกรรม ภาคส่วนราชการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมาตรการชั่วคราวที่เน้นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น เช่น จำกัดความเร็วรถยนต์นั่ง และรถบรรทุก กำหนดบัสเลนห้ามจอดรถในถนนสายหลัก ห้ามไม่ให้โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ใช้ไฟฟ้าในช่วง Peak Load สาธิตการประหยัดพลังงาน กำหนดเวลาปิดเปิดของสถานบริการเริงรมย์ ลดเวลาออกอากาศทางโทรทัศน์ในช่วงเย็น เป็นต้น